|
MG ES 2023 ใหม่ (MG EP ไมเนอร์เชนจ์) เคาะราคาทางการในไทย 959,000 บาท | |
MG ES 2023 ใหม่ ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย 959,000 บาท (ราคาหลังหักเงินสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว) พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า และแบตเตอรี่วิ่งไกลสุด 412 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
MG ES ใหม่ ชูจุดเด่นด้วยตัวถังแบบสเตชันแวกอน มีการปรับปรุงรูปโฉมเน้นความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ภายนอกติดตั้งไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้ายแบบ Light Curtain Design พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, สปอยเลอร์หลัง, ราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 75 กิโลเมตร และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ตัวถังของ MG ES มีขนาดความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,600 มม. ความกว้าง 1,818 มม. ความสูง 1,543 มม. ความยาวฐานล้อ 2,665 มม. และมีระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มม.
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยดีไซน์ Energetic Blue Strip พร้อมเทคโนโลยีเบาะนั่งแบบ Zero-G Seats ช่วยกระจายน้ำหนักรองรับสรีระของผู้โดยสารทำให้นั่งสบายตลอดทาง เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ Denim Texture Design เน้นดูแลรักษาง่าย พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ และเบาะนั่งด้านหลังพับแยกแบบ 60:40 ได้ ติดตั้งแผงคอนโซลแบบ Double Layer พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB-A และ USB-C รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังปรับระดับได้ 4 ทิศทาง MG ES ใหม่ ยังถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล (Digital Multi-function Display) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ i-SMART (Light Version) รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android และลำโพง 6 ตำแหน่ง อีกทั้งยังถูกติดตั้งกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลพร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 และกุญแจอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start
ระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System พร้อมระบบ Advanced Driver Assistant System (ADAS) รวม 20 ระบบ ได้แก่
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ, สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
43+ดูภาพทั้งหมด
MG ES 2023 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 8-Layer Hair Pin Permanent Magnetic Synchronous Motor (PMSM) ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 412 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ปรับได้ 3 ระดับ และแบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น MG ES รองรับการชาร์จทั้งแบบ Normal Charge และ Quick Charge โดยการชาร์จแบบธรรมดาผ่าน MG Home Charger จาก 0-100% จะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที และการชาร์จเร็วจาก 0-80% จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที รองรับกำลังไฟสูงสุด 87 kWh อีกทั้งยังมีระบบ V2L (Vehicle to Load) เพื่อจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์ อ้างอิงข่าวรถยนต์ | |
ผู้ตั้งกระทู้ sa :: วันที่ลงประกาศ 2023-03-21 10:01:41 |
Visitors : 676813 |